จะเป็นเฉินหลงที่ไหนกันล่ะ? ถ้าไม่ใช่นักวิ่งแนวหน้าของเมืองไทย “นิวัฒน์ อ้อยทิพย์”
นามนี้น้อยคนนักในวงการวิ่งจะบอกว่าไม่รู้จัก และก็มีหลายคนที่กัดเขี้ยวเคี้ยวฟันว่ารู้จักดี..
(เพราะวิ่งทีไรก็แย่งถ้วยแย่งรางวัลจากฉันไปทุกที) ฮึ่ม ฮึ่ม..
คงจำกันได้.. เมื่อปลายเดือนตุลาฯ ปี 57 “เฉินหลง” มีอันต้องระเห็จไปพักผ่อนนอนเอ้เต้อยู่บนเตียงในโรงพยาบาลฯ
ด้วยอาการเส้นเลือดในสมองเสื่อมหรือตีบนี่แหละ
แขน-ขา ซีกหนึ่ง (คนนะครับไม่ใช่ไก่) ไม่มีแรงกระทั่งจะแกว่ง ปล่อยห้อยคล้ายเป็นอัมพฤกษ์อัมพาตครึ่งตัว
ต้องทำรักษาและทำกายภาพเพื่อบำบัดอย่างต่อเนื่องเพื่อคืนสภาพ..
แพทย์ที่ให้การรักษา ออกมานอนยันฟันธงว่าโอกาสที่จะกลับมาเหมือนเดิมนั้น.. ยากสส์ส์ส์ส์
หลายๆคนก็คิดเช่นนั้น !!!
บ้างเอาดวงไปดูเพราะสงสัยว่าจะถูกนักวิ่งรุ่นเดียวกันลงขันจ้างหมอผี
ให้หมอเขมรทำไสยศาสตร์เล่นงานให้เส้นเอ็นหย่อนยาน(วิ่งไม่ได้)
แต่เหมือนมีปาฎิหารย์ เผลอแพล็บเดียว “เฉินหลง” ของเราออกไปยืนป๋ออยู่ในสนามวิ่งซะแล้ว
.. นี่แหละครับ การฟื้นตัว คืนสภาพของคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ “ไม่ต้องพึ่งพาหยูกยาให้วุ่นวาย”
อ้าว.. แล้วที่จั่วหัวว่าเมื่อเฉินหลงลงจากเตียง อะไรจะเกิดขึ้นน่ะ พอจะบอกให้รู้ได้หรือยังล่ะ..
ฮ่าฮ่าฮ่า เอิ้ก. “สับปะรดขลุ่ย” คล้ายได้ยิน “เฉินหลง” กำลังจะทำกิจกรรมวิ่งเพื่อเด็กนักเรียนเพื่อโรงเรียน
ที่อยู่ในแดนกันดาร ห่างไกลความเจริญ ตามตะเข็บรอยต่อชายแดนของประเทศ
ยากไร้ปัจจัยมาเอื้อเฟื้อเกื้อหนุนทุกภาพรวม เติมสิ่งที่พร่อง พร้อมเสริมสร้างกระตุ้นให้นักเรียนมีความมุ่งมั่น
มุมานะตั้งใจเรียนและภูมิใจในสถาบันฯ ถิ่นฐานบ้านเกิด
กิจกรรมเล็กๆ (แต่เหนื่อยไม่น้อย) รวมใจนักวิ่งนำรายได้ไปสู่น้องๆขาสั้นที่จะเป็นกำลังของชาติในอนาคต
ส่วน “เฉินหลง”จะเปิดตัวงานนี้เมื่อไหร่ (มีใครสนับสนุนบ้าง) อีกไม่นานเรา-ท่านคงจะรู้
งานบุญอย่างนี้ “สับปะรดขลุ่ย” แม้จะเจ็บตูดซ้ำซาก ก็ยังอดใจไม่ไหว.. ขอให้รู้ว่าเมื่อไร ต้องไป ต้องไปครับ.